วันพุธที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

วันที่ 30 บรรจงปั้นเพื่อรับใช้พระเจ้า

พระหัตถ์ของพระองค์ปั้นและทรงสร้างข้าพระองค์
โยบ 10:8

ชนชาติที่เราปั้นเพื่อเราเองเพื่อเขาจะถวายสรรเสริญเรา
อิสยาห์ 43:21

พระเจ้าบรรจงปั้นคุณเพื่อให้รับใช้พระองค์

พระเจ้าทรงสร้างสิ่งมีชีวิตทุกอย่างในโลกนี้ให้มีความชำนาญพิเศษเฉพาะตัว สัตว์บางชนิดวิ่ง บางชนิดกระโดด บางชนิดว่ายน้ำ บางชนิดขุดรู และบางชนิดบิน แต่ละชนิดมีบทบาทเฉพาะของตนตามลักษณะที่พระเจ้าได้ทรงออกแบบพวกมัน เช่นเดียวกันกับมนุษย์ เราแต่ละคนได้รับการออกแบบพิเศษ หรือ "ปั้น" เพื่อทำบางสิ่งอย่างเฉพาะเจาะจง

ก่อนที่สถาปนิกจะออกแบบอาคารใหม่ เขาจะถามว่า "อาคารนี้จะใช้เพื่อวัตถุประสงค์อะไร จะใช้งานอย่างไร" ประโยชน์ใช้สอยที่คิดไว้มักจะเป็นตัวกำหนดลักษณะของอาคาร ก่อนที่พระเจ้าทรงสร้างคุณ พระองค์ก็ได้ทรงตัดสินพระทัยว่าพระองค์ต้องการให้คุณมีบทบาทอะไรในโลกนี้ โดยทรงวางแผนไว้อย่างเจาะจงว่าจะให้คุณรับใช้พระองค์อย่างไร แล้วพระองค์จึงปั้นคุณเพื่องานนั้น คุณเป็นอย่างที่คุณเป็นเพราะคุณถูกสร้างมาเพื่อพันธกิจที่เจาะจง

พระคัมภีร์กล่าวว่า "เพราะว่าเราเป็นฝีพระหัตถ์ของพระองค์ ที่ทรงสร้างขึ้นในพระเยซูคริสต์เพื่อให้ประกอบการดี" (เอเฟซัส 2:10) คำว่าบทกวีในภาษาอังกฤษนั้นมาจากคำกรีกคำเดียวกับที่แปลว่า "ฝีพระหัตถ์" คุณเป็นงานศิลปะจากฝีพระหัตถ์ของพระเจ้า ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ที่มาจากสายการผลิตในโรงงาน ซึ่งผลิตจำนวนมากชิ้นโดยไม่ใช้ความคิด คุณเป็นผลงานสั่งทำพิเศษ มีชิ้นเดียวในโลก เป็นผลงานชิ้นเอกขนานแท้

พระเจ้าทรงจงใจปั้นและสร้างคุณเพื่อให้รับใช้พระองค์ในพันธกิจที่ไม่เหมือนใครพระองค์ทรงผสมดีเอ็นเอที่ใช้สร้างคุณอย่างพิถีพิถัน ดาวิดสรรเสริญพระเจ้าที่พระองค์สนพระทัยรายละเอียดส่วนบุคคลอย่างเหลือเชื่อ "พระองค์ได้ทรงสร้างส่วนที่ละเอียดอ่อนภายในร่ายกายของข้าพระองค์ และทอข้าพระองค์ให้ซับซ้อนอย่างน่าอัศจรรย์ ฝีพระหัตถ์ของพระองค์นั้นน่าทึ่ง" (สดุดี 139:13-14 NLT) ก็เหมือนที่เอเธ็ล วอเตอร์ส กล่าวว่า "พระเจ้ามิได้ทรงสร้างขยะ"

พระเจ้าไม่เพียงแต่กำหนดลักษณะคุณไว้ตั้งแต่ก่อนที่คุณเกิด แต่พระองค์ยังทรงวางแผนสำหรับทุกวันในชีวิตคุณ เพื่อให้มันสนับสนุนกระบวนการสรรค์สร้างตัวคุณ ดาวิดตรัสต่อไปว่า "ทุก ๆ วันที่กำหนดให้ข้าพระองค์นั้น ก็ทรงจารึกไว้ในพระตำรับของพระองค์เมื่อครั้งยังไม่เกิดวันนั้นเลย" (สดุดี 139:16) นี่หมายความว่า ไม่มีสิ่งใดที่เกิดขึ้นในชีวิตของคุณที่ไม่สำคัญ พระเจ้าทรงใช้ทุกสิ่งเพื่อหล่อหลอมคุณสำหรับการรับใช้ผู้อื่น และปั้นคุณเพื่อการรับใช้พระองค์

พระเจ้าไม่เคยทำให้สิ่งใดสูญเปล่าเลย พระองค์จะไม่ประทานความสามารถ ความสนใจ พรสวรรค์ ของประทาน บุคลิกภาพ และประสบการณ์ชีวิตต่าง ๆ ให้แก่คุณ เว้นเสียแต่ว่าพระองค์ประสงค์ที่จะใช้สิ่งเหล่านั้นเพื่อพระสิริของพระองค์ คุณสามารถรู้น้ำพระทัยของพระเจ้าสำหรับชีวิตคุณ โดยการจำแนกแยกแยะและทำความเข้าใจปัจจัยเหล่านี้

พระคัมภีร์บอกว่า คุณ "ซับซ้อนอย่างน่าอัศจรรย์" คุณเป็นส่วนประกอบของปัจจัยต่าง ๆ มากมาย ผมได้คิดอักษรย่อ SHAPE (ลักษณะ) ขึ้นมาเพื่อช่วยให้คุณจดจำปัจจัยห้าประการต่อไปนี้ ในบทนี้และบทต่อไป เราจะดูปัจจัยห้าประการนี้ และหลังจากนั้นผมจะอธิบายวิธีค้นหาและใช้ลักษณะของคุณ

พระเจ้าทรงกำหนดลักษณะของคุณเพื่อพันธกิจของคุณ

เมื่อใดก็ตามที่พระเจ้ามอบหมายงานให้แก่เรา พระเจ้าก็จะทรงเตรียมเราด้วยสิ่งที่เราจำเป็นต้องใช้ เพื่อจะทำงานนั้นให้สำเร็จ ส่วนผสมของความศักยภาพเหล่านี้เรียกว่า SHAPE (ลักษณะ) ของคุณ

Spiritual gifts ของประทานฝ่ายวิญญาณ
Heart ใจ
Abilities ความสามารถ
Personality บุคลิกภาพ
Experience ประสบการณ์

SHAPE: แกะกล่องของประทานฝ่ายวิญญาณของคุณ (Spiritual gifts)

พระเจ้าประทานของประทานฝ่ายวิญญาณแก่ผู้เชื่อทุกคนเพื่อใช้ทำพันธกิจ (โรม 12:4-8, 1 โครินธ์ 12, เอเฟซัส 4:8-15, 1 โครินธ์ 7:7) สิ่งเหล่านี้คือความสามารถพิเศษที่พระเจ้าทรงเสริมกำลังเพื่อการรับใช้พระองค์ ของประทานเหล่านี้พระองค์ประทานแก่ผู้เชื่อเท่านั้น พระคัมภีร์กล่าวว่า "ผู้ใดที่ไม่มีพระวิญญาณก็ไม่สามารถรับของประทานซึ่งมาจากพระวิญญาณของพระเจ้า" (1 โครินธ์ 2:14 TEV)

คุณไม่คู่ควรและไม่สามารถทำสิ่งใดเพื่อแลกของประทานฝ่ายวิญญาณได้ นั่นคือเหตุผลที่สิ่งเหล่านี้ได้ชื่อว่าของประทาน เพราะมันเป็นการที่พระเจ้าทรงสำแดงพระคุณของพระองค์แก่คุณ "พระคริสต์ได้ทรงแจกจ่ายของประทานแก่พวกเราด้วยพระทัยกว้างขวาง" (เอเฟซัส 4:7 CEV) และคุณก็ไม่สามารถเลือกของประทานตามที่อยากได้เพราะเรื่องนั้นพระเจ้าทรงเป็นผู้กำหนด เปาโลได้อธิบายว่า "พระวิญญาณบริสุทธิ์แต่พระองค์เดียวที่ทรงแจกจ่ายของประทานเหล่านี้ พระองค์ผู้เดียวทรงตัดสินว่าของประทานใดควรจะประทานแก่ผู้ใด" (1 โครินธ์ 12:11 NLT)

เพราะว่าพระเจ้าทรงรักความหลากหลาย และต้องการให้เรามีลักษณะพิเศษ ดังนั้นจึงไม่มีของประทานชนิดใดที่ประทานแก่ทุกคนเหมือนกัน (1 โครินธ์ 12:29-30) และไม่มีใครได้รับของประทานทุกอย่าง ถ้าคุณมีหมดทุกอย่าง คุณก็จะไม่ต้องการคนอื่นอีกต่อไปและนั่นจะเป็นการทำลายพระประสงค์ประการหนึ่งของพระเจ้า คือ การสอนเราให้รักและพึ่งพาซึ่งกันและกัน

ของประทานฝ่ายวิญญาณนี้มิได้ประทานมาเพื่อประโยชน์ของคุณเอง แต่เพื่อประโยชน์ของผู้อื่น เช่นเดียวกับที่ผู้อื่นก็ได้รับของประทานเพื่อประโยชน์ของคุณ พระคัมภีร์กล่าวว่า "ของประทานฝ่ายวิญญาณนั้นประทานแก่เราแต่ละคนเพื่อเป็นเครื่องมือในการช่วยเหลือทั้งคริสตจักร" (1 โครินธ์ 12:7 NLT) พระเจ้าได้ทรงวางแผนเช่นนี้เพื่อเราจะต้องการซึ่งกันและกัน เราทุกคนก็จะได้รับประโยชน์เมื่อเราใช้ของประทานร่วมกัน ถ้าคนอื่นไม่ใช้ของประทานก็แสดงว่าคุณกำลังถูกโกง และถ้าคุณไม่ใช้ของประทาน พวกเขาก็กำลังถูกโกงเช่นกัน นี่คือเหตุผลที่เราได้รับคำสั่งให้ค้นหาและพัฒนาของประทานฝ่ายวิญญาณ คุณเคยใช้เวลาค้นหาของประทานฝ่ายวิญญาณของคุณหรือไม่ ของขวัญที่ยังไม่ได้แกะกล่องก็เป็นของไร้ค่า

เมื่อไรก็ตามที่เราลืมความจริงพื้นฐานเหล่านี้ ปัญหาก็จะเกิดขึ้นในคริสตจักรเสมอ ปัญหาที่พบบ่อยสองประการคือ "อิจฉาของประทาน" และ "อยากให้ผู้อื่นมีของประทานเหมือนตนเอง" ปัญหาประการแรกเกิดขึ้นเมื่อเราเปรียบเทียบของประทานกับผู้อื่น รู้สึกไม่พอใจกับสิ่งที่พระเจ้าประทานแก่เรา และขุ่นเคืองใจหรือริษยาที่พระเจ้าทรงใช้คนอื่น ปัญหาประการที่สองเกิดขึ้นเมื่อเราคาดหวังให้ทุกคนมีของประทานแบบเดียวกับเรา ทำสิ่งที่เราได้รับการทรงเรียกให้ทำ และรู้สึกร้อนรนต่องานนั้นเหมือนกับที่เรารู้สึก พระคัมภีร์กล่าวว่า "การรับใช้มีต่างกันในคริสตจักร แต่เป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าองค์เดียวกันที่เรารับใช้" (1 โครินธ์ 12:5 NLT)

บางครั้ง ของประทานฝ่ายวิญญาณอาจจะถูกเน้นมากเกินไป จนถึงขั้นละเลยปัจจัยอื่น ๆ ที่พระเจ้าทรงใช้เพื่อสร้างคุณสำหรับงานรับใช้ ของประทานของคุณช่วยเปิดเผยกุญแจดอกหนึ่งในการค้นพบน้ำพระทัยของพระเจ้าสำหรับพันธกิจของคุณ แต่ของประทานฝ่ายวิญญาณก็ไม่ใช่ภาพรวมทั้งหมด พระเจ้ายังทรงสร้างคุณด้วยวิธีอื่นอีกสี่วิธี

SHAPE: ฟังเสียงหัวใจของคุณ (Heart)

พระคัมภีร์ใช้คำว่าใจ เพื่อบรรยายถึงความรู้สึกต่าง ๆ อันได้แก่ ความหวัง ความสนใจ ความทะเยอทะยาน ความฝัน และความชื่นชอบของคุณ ใจหมายถึงที่มาของแรงจูงใจทั้งสิ้นของคุณ คือ สิ่งที่คุณอยากจะทำและสนใจมากที่สุด แม้แต่ทุกวันนี้ เราก็ยังใช้คำว่าใจในลักษณะนี้เมื่อเรากล่าวว่า "ผมรักคุณสุดหัวใจเลย"

พระคัมภีร์กล่าวว่า "ในน้ำ คนเห็นหน้าคนฉันใด หัวใจของคนก็ส่อคนฉันนั้น" (สุภาษิต 27:19 NLT) ใจของคุณเปิดเผยตัวจริงของคุณ คือ สิ่งที่คุณเป็นจริง ๆ ไม่ใช่สิ่งที่คนอื่นคิดว่า คุณเป็น หรือสิ่งที่สภาพแวดล้อมบังคับให้คุณเป็น ใจของคุณกำหนดว่าทำไมคุณจึงพูดอย่างที่คุณพูด ทำไมคุณรู้สึกแบบนั้น และทำไมคุณทำอย่างที่คุณทำ (มัทธิว 12:34, สดุดี 34:7, สุภาษิต 4:23)

ในฝ่ายร่างกาย แต่ละคนมีจังหวะการเต้นของหัวใจไม่เหมือนกัน เช่นเดียวกับที่เราแต่ละคนมีลายนิ้วมือ รูม่านตา และความถี่ของเสียงไม่เหมือนกัน หัวใจของเราก็เต้นด้วยรูปแบบที่แตกต่างกันเล็กน้อย น่าประหลาดใจที่คนนับพันล้านซึ่งเคยมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ไม่มีหัวใจใครที่เต้นเหมือนกับของคุณเลย

ในทำนองเดียวกัน พระเจ้าก็ได้ประทานให้เราแต่ละคนมี "จังหวะการเต้น" ทางอารมณ์ที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งจะเต้นเร็วเมื่อเราคิดถึงเรื่องราว กิจกรรม หรือสถานการณ์ที่เราสนใจ เราสนใจบางสิ่งโดยสัญชาติญาณ และบางสิ่งเราก็ไม่สนใจ สิ่งเหล่านี้คือคำบอกใบ้ให้คุณรู้ว่าคุณควรจะรับใช้ที่ไหน

อีกคำหนึ่งสำหรับหัวใจคือความกระตือรือร้น มีบางเรื่องที่เรารู้สึกร้อนรน ขณะที่บางเรื่องเราก็ไม่ใส่ใจ ประสบการณ์บางอย่างทำให้คุณตื่นตัวและจับความสนใจของคุณ ขณะที่ประสบการณ์อื่น ๆ ทำให้คุณเมินเฉยและเบื่อหน่ายจนน้ำตาไหล สิ่งเหล่านี้เปิดเผยธรรมชาติของใจคุณ

เมื่อคุณเติบโตขึ้น คุณอาจจะพบว่า คุณสนใจเรื่องบางเรื่องมาก ทั้ง ๆ ที่ไม่มีใครในครอบครัวคุณสนใจเลย แล้วคุณไปได้ความสนใจเหล่านั้นมาจากไหน สิ่งเหล่านี้มาจากพระเจ้า พระเจ้าทรงมีพระประสงค์ในการให้คุณมีความสนใจเหล่านี้ติดตัวมา จังหวะการเต้นทางอารมณ์ของคุณเป็นกุญแจดอกที่สอง ที่จะเข้าใจลักษณะที่พระเจ้าสร้างคุณมาเพื่อการรับใช้ อย่าได้มองข้ามความสนใจของคุณ แต่จงพิจารณาว่าจะใช้ความสนใจเหล่านี้เพื่อพระสิริของพระเจ้าได้อย่างไร เพราะมีเหตุผลที่คุณชอบทำสิ่งเหล่านั้น

พระคัมภีร์บอกว่าซ้ำแล้วซ้ำอีกว่า "จงปรนนิบัติพระเจ้าด้วยสุดจิสุดใจของท่าน" (เฉลยธรรมบัญญัติ 11:13, 1 ซามูเอล 12:20, โรม 1:9, เอเฟซัส 6:6) พระเจ้าต้องการให้คุณรับใช้พระองค์อย่างกระตือรือร้น ไม่ใช่ทำ ๆ ไปตามหน้าที่ คนเราจะไม่ค่อยเป็นเลิศในงานที่เราไม่ชอบ หรือไม่รู้สึกกระตือรือร้น พระเจ้าต้องการให้คุณใช้ความสนใจตามธรรมชาติเพื่อรับใช้พระองค์และคนอื่น การฟังเสียงกระตุ้นจากภายในสามารถชี้นำไปสู่พันธกิจที่พระเจ้าประสงค์ให้คุณทำ

คุณจะรู้ได้อย่างไรว่า เวลาไหนที่คุณกำลังรับใช้พระเจ้าจากหัวใจ สัญญาณบ่งชี้ประกอบแรกคือ ความกระตือรือร้น เมื่อคุณทำสิ่งที่คุณรัก คุณก็ไม่ต้องอาศัยใครมาคอยกระตุ้นท้าทาย หรือตรวจสอบ คุณจะทำด้วยความสนุกจริง ๆ คุณไม่ต้องการรางวัล เสียงปรบมือหรือค่าจ้าง เพราะว่าคุณรักการรับใช้ในลักษณะนี้ ในทางกลับกันก็เป็นความจริงคือ ถ้าคุณไม่มีหัวใจให้กับสิ่งที่คุณทำ คุณก็จะท้อใจได้ง่่่าย ๆ

ลักษณะประการที่สองของการรับใช้พระเจ้าจากใจคือประสิทธิภาพ เมื่อไรก็ตามที่คุณทำสิ่งที่พระเจ้าสร้างคุณให้รักที่จะทำ คุณก็จะทำได้ดี ความกระตือรือร้นจะผลักดันไปสู่ความเป็นเลิศ ถ้าคุณไม่ใส่ใจงานใดงานหนึ่ง ก็คงยากที่คุณจะทำงานนั้นได้ดีเลิศ ตรงกันข้าม ผู้ที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในสาขาใด ๆ ก็ตาม ล้วนเป็นคนที่ทำเพราะความกระตือรือร้นไม่ใช่เพราะหน้าที่หรือผลประโยชน์

เราทุกคนเคยได้ยินคนพูดว่า "ผมยอมทำงานที่ผมเกลียด เพื่อหาเงินให้ได้มาก ๆ วันหนึ่งผมจะเลิก และทำสิ่งที่ผมอยากทำ" นั่นเป็นความผิดพลาดอย่างมหันต์ อย่าให้ชีวิตของคุณสูญเปล่าไปกับงานที่ไม่แสดงออกถึงหัวใจคุณ โปรดจำไว้ว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตไม่ใช่สิ่งของ ความหมายของชีวิตนั้นสำคัญกว่าเงินทองหลายเท่า ชายที่มั่นมีที่สุดในโลกเคยพูดไว้ว่า "ชีวิตเรียบง่ายที่ยำเกรงพระเจ้านั้น ดีกว่าชีวิตร่ำรวยที่มาพร้อมกับเรื่องปวดหัวมากมายก่ายกอง" (สุภาษิต 15:16 Msg)

อย่าพึงพอใจเพียงแค่การมี "ชีวิตที่ดี" หรือ "ความเป็นอยู่ที่ดี" เพราะว่าชีวิตที่ดีนั้นยังไม่ดีพอ ในที่สุด มันจะไม่นำมาซึ่งความพึงพอใจ คุณอาจมีเงินทองมากมายเพื่อจะดำเนินชีวิตต่อไป แต่กลับไม่รู้ว่าจะมีชีวิตอยู่ไปเพื่ออะไร ดังนั้นจงมุ่งสู่ "ชีวิตที่ดีกว่า" คือการรับใช้พระเจ้าในแบบที่แสดงออกถึงหัวใจของคุณ จงค้นหาว่า คุณรักที่จะทำอะไร อะไรคือสิ่งที่พระเจ้าให้คุณมีใจที่จะทำ แล้วก็ทำสิ่งนั้นเพื่อพระเกียรติของพระองค์

วันที่ 30 คิดถึงวัตถุประสงค์ของฉัน

ประเด็นสำหรับการใคร่ครวญ: พระเจ้าบรรจงปั้นคุณเพื่อรับใช้พระองค์

ข้อพระคัมภีร์สำหรับท่องจำ: "พระเจ้าทรงทำงานผ่านผู้คนหลากหลายด้วยวิธีต่าง ๆ กัน แต่เป็นพระเจ้าองค์เดียวกันผู้ทรงกระทำให้พระประสงค์ของพระองค์สำเร็จผ่านทางพวกเขาทุกคน" 1 โครินธ์ 12:6 (Ph)

คำถามสำหรับการพิจารณา: ในเรื่องไหนบ้างที่ฉันรับใช้คนอื่นด้วยความกระตือรือร้นและรักที่จะทำสิ่งนั้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น