ในใจของมนุษย์มีแผนงานเป็นอันมาก แต่พระประสงค์ของพระเจ้านั่นแหละจะดำรงอยู่ได้
สุภาษิต 19:21
ฝ่ายดาวิดเมื่อได้ปฏิบัติในคราวอายุของท่านตามพระทัยของพระเจ้า
กิจการ 13:36
การดำเนินด้วยวัตถุประสงค์เป็นวิธีเดียวที่จะมีชีวิตอย่างแท้จริง วิธีอื่นล้วนเป็นเพียงการมีตัวตนเฉย ๆ
คนส่วนใหญ่ดิ้นรนค้นหาคำตอบของปัญหาพื้นฐานในชีวิตสามประการ ประการแรกคือตัวตน "ฉันเป็นใคร" ประการที่สองคือความสำคัญ "ฉันสำคัญไหม" ประการที่สามคือผลกระทบ "อะไรคือบทบาทในชีวิตของฉัน" คำตอบสำหรับคำถามทั้งสามข้อนี้พบได้ในพระประสงค์ห้าประการของพระเจ้าสำหรับคุณ
ในห้องชั้นบน เมื่อพระเยซูใกล้จะสิ้นสุดวันท้ายของการทำพันธกิจกับเหล่าสาวกของพระองค์ พระองค์ได้ทรงล้างเท้าพวกเขาเพื่อเป็นตัวอย่าง และตรัสว่า "เมื่อท่านรู้ดังนี้แล้วและท่านประพฤติตาม ท่านก็เป็นสุข" (ยอห์น 13:17) เมื่อคุณรู้สิ่งที่พระเจ้าต้องการให้คุณทำ พระพรก็จะมาจากการลงมือทำสิ่งนั้น เวลานี้เรามาถึงจุดสิ้นสุดของการเดินทางสี่สิบวันไปด้วยกัน เมื่อคุณรู้พระประสงค์ของพระเจ้าสำหรับชีวิตคุณแล้ว คุณก็จะได้รับพระพรถ้าคุณลงมือทำสิ่งเหล่านี้
การทำเช่นนี้อาจจะหมายถึงคุณจะต้องหยุดทำสิ่งอื่นบางสิ่ง มีสิ่ง "ดี" หลายอย่างที่คุณสามารถทำได้กับชีวิตของคุณ แต่พระประสงค์ของพระเจ้าคือ สิ่งสำคัญห้าประการที่คุณต้องทำ น่าเสียดาย มันง่ายที่จะหันเหหรือหลงลืมสิ่งที่สำคัญที่สุด มันง่ายที่จะหลุดจากสิ่งที่สำคัญที่สุด และค่อย ๆ ออกนอกเส้นทาง เพื่อป้องกันปัญหานี้ คุณควรจะเขียนแถลงการณ์วัตถุประสงค์สำหรับชีวิตของคุณ แล้วทบทวนเสมอ ๆ
อะไรคือแถลงการณ์วัตถุประสงค์สำหรับชีวิต
มันคือข้อความที่สรุปพระประสงค์ของพระเจ้าสำหรับชีวิตคุณ คุณยืนยันการอุทิศถวายตัวเพื่อพระประสงค์ห้าประการสำหรับชีวิตคุณด้วยคำพูดของคุณเอง แถลงการณ์วัตถุประสงค์ไม่ใช่รายการเป้าหมาย เป้าหมายเป็นสิ่งชั่วคราว วัตถุประสงค์นั้นนิรันดร์ พระคัมภีร์กล่าวว่า "แผนการของพระองค์จะดำรงอยู่ตลอดไป พระประสงค์ของพระองค์คงอยู่ชั่วนิรันดร์" (สดุดี 33:11 TEV)
มันเป็นข้อความที่บอกทิศทางแก่ชีวิตของคุณ การเขียนวัตถุประสงค์ของคุณลงไปบนกระดาษจะบังคับให้คุณคิดถึงเส้นทางชีวิตของคุณอย่างเจาะจง พระคัมภีร์กล่าวว่า "จงรู้ว่าท่านมุ่งหน้าไปทางไหน และท่านจะอยู่บนทางที่มั่นคง" (สุภาษิต 4:26 CEV) แถลงการณ์วัตถุประสงค์ของชีวิตไม่เพียงแต่บอกถึงสิ่งที่คุณตั้งใจจะทำกับเวลา ชีวิต และเงินทองของคุณเท่านั้น แต่ยังบอกถึงสิ่งที่คุณจะไม่ทำด้วย สุภาษิตกล่าวว่า "คนฉลาดมุ่งกระทำสิ่งที่มีปัญญา แต่คนโง่เริ่มต้นโดยการมุ่งหน้าสะเปะสะปะ" (สุภาษิต 17:24 TEV)
มันเป็นข้อความที่กำหนดกรอบ "ความสำเร็จ" สำหรับคุณ มันบอกถึงสิ่งที่คุณเชื่อว่าสำคัญ ไม่ใช่สิ่งที่โลกบอกว่าสำคัญ มันทำให้ค่านิยมของคุณชัดเจน เปาโลกล่าวว่า "ข้าพเจ้าต้องการให้ท่านเข้าใจว่าสิ่งใดที่สำคัญจริง ๆ" (ฟีลิปปี 1:10 NLT)
มันเป็นข้อความที่ทำให้บทบาทของคุณชัดเจน คุณอาจจะมีบทบาทแตกต่างไปในแต่ละช่วงของชีวิต แต่วัตถุประสงค์ของคุณจะไม่มีวันเปลี่ยน มันยิ่งใหญ่กว่าบทบาทใด ๆ ทั้งหมดของคุณ
มันเป็นข้อความที่แสดงออกถึงลักษณะ (SHAPE) ของคุณ มันสะท้อนเอกลักษณ์ที่พระเจ้าได้ทรงสร้างคุณเพื่อรับใช้พระองค์
จงใช้เวลาเขียนแถลงการณ์วัตถุประสงค์ของชีวิตคุณออกมา ไม่ต้องพยายามเขียนให้เสร็จภายในครั้งเดียว และอย่ามุ่งที่จะเขียนได้อย่างสมบูรณ์แบบตั้งแต่ครั้งแรก ขอเพียงแต่เขียนความคิดของคุณลงไป ให้เร็วที่สุดตามที่คุณนึกได้ การเรียบเรียงนั้นง่ายกว่าการคิดขึ้นใหม่ ต่อไปนี้เป็นคำถามห้าข้อที่คุณควรพิจารณาขณะเขียนแถลงการณ์ของคุณ
ห้าคำถามที่สำคัญที่สุดในชีวิต
อะไรจะเป็นศูนย์กลางในชีวิตฉัน นี่คือคำถามเรื่องการนมัสการ คุณจะใช้ชีวิตอยู่เพื่อใคร ชีวิตคุณจะมุ่งเน้นที่อะไร คุณสามารถจดจ่อชีวิตของคุณกับอาชีพ ครอบครัว กีฬา หรืองานอดิเรก เงินทอง ความสุขสบาย หรือกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งดี แต่มันไม่ใช่ศูนย์กลางชีวิตของคุณ เพราะไม่มีสิ่งใดสำคัญมากพอที่จะยึดคุณเอาไว้ได้เมื่อชีวิตเริ่มแตกสลาย คุณต้องการศูนย์กลางที่มั่นคงไม่หวั่นไหว
กษัตริย์อาสาสั่งประชาชนยูดาห์ให้ "มีพระเจ้าเป็นศูนย์กลางชีวิต" (2 พงศาวดาร 14:4 Msg) ที่จริง สิ่งใดก็ตามที่อยู่ ณ ศูนย์กลางชีวิตคุณก็คือพระเจ้าของคุณ เมื่อคุณถวายชีวิตของคุณแด่พระคริสต์ พระองค์ทรงย้ายเข้ามาที่ศูนย์กลาง แต่คุณต้องรักษาพระองค์ไว้ที่นั่นด้วยการนมัสการ เปาโลกล่าวว่า "ขอให้พระคริสต์ตั้งมั่นคงอยู่ในใจของพวกท่าน" (เอเฟซัส 3:17 อ่านเข้าใจง่าย)
คุณจะรู้ได้อย่างไรว่าเมื่อไรพระเจ้าทรงเป็นศูนย์กลางในชีวิตคุณ เมื่อพระองค์ทรงเป็นศูนย์กลางชีวิตคุณ คุณจะนมัสการ แต่เมื่อพระองค์ไม่เป็น คุณจะวิตกกังวล ความวิตกเป็นสัญญาณที่เตือนว่าพระเจ้าได้ถูกผลักไสออกไปอยู่รอบนอก ทันทีที่คุณให้พระองค์กลับมาเป็นศูนย์กลาง คุณก็จะมีสันติสุขอีกครั้ง พระคัมภีร์กล่าวว่า "ความรู้สึกถึงความอิ่มเอิบของพระเจ้า… จะเข้ามาทำให้ท่านสงบ สิ่งที่ยอดเยี่ยมนี้เกิดขึ้น เมื่อพระคริสต์ทรงเข้ามาอยู่ที่ศูนย์กลางชีวิตของท่าน แทนที่ความกังวล (ฟีลิปปี 4:7 Msg)
ลักษณะนิสัยของฉันจะเป็นอย่างไร นี่คือคำถามเรื่องการเป็นสาวก คุณจะเป็นคนแบบไหน พระเจ้าทรงสนพระทัยว่าคุณเป็นอย่างไรมากยิ่งกว่าสิ่งที่คุณทำ โปรดจำไว้ว่าคุณจะนำลักษณะนิสัยของคุณไปสวรรค์ ไม่ใช่อาชีพการงาน จงเขียนรายการลักษณะนิสัยที่คุณต้องการฝึกและพัฒนาในชีวิตของคุณ คุณอาจจะเริ่มต้นด้วยผลของพระวิญญาณ (กาลาเทีย 5:22-23) หรือผู้เป็นสุข (มัทธิว 5:3-12)
เปโตรกล่าวว่า "อย่าเสียเวลาไปแม้แต่นาทีเดียวในการสร้างสิ่งที่ท่านได้รับ โดยการเสริมความเชื่อพื้นฐานของท่านด้วยลักษณะนิสัยที่ดี ความเข้าใจฝ่ายวิญญาณ วินัยที่ตื่นตัว ความอดทนอย่างยิ่งยวด ความยำเกรงพระเจ้า มิตรภาพอันอบอุ่น และความรักด้วยใจกว้างขวาง" (2 เปโตร 1:5-7 Msg) อย่าท้อใจและล้มเลิกเมื่อคุณสะดุดล้ม มันต้องใช้เวลาตลอดชีวิตที่จะสร้างลักษณะนิสัยที่เหมือนพระคริสต์ เปาโลบอกทิโมธีว่า "จงยึดมั่นในเรื่องลักษณะนิสัยและคำสอนของท่าน อย่าว่อกแว่ก จงมุ่งมั่นในสิ่งนี้" (1 ทิโมธี 4:16ข Msg)
ชีวิตของฉันจะทำประโยชน์อะไร นี่คือคำถามเรื่องการรับใช้ พันธกิจของคุณในพระกายของพระคริสต์คืออะไร จากที่ได้รู้องค์ประกอบของลักษณะซึ่งได้แก่ของประทานฝ่ายวิญญาณ หัวใจ ความสามารถ บุคลิกภาพ และประสบการณ์ (SHAPE) อะไรคือ บทบาทที่ดีที่สุดของคุณในครอบครัวของพระเจ้า คุณจะทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร มีกลุ่มใดในพระกายที่พระเจ้าบรรจงปั้นฉันมาใช้รับใช้โดยเฉพาะหรือไม่ เปาโลได้ชี้ให้เห็นผลประโยชน์อันยอดเยี่ยมสองประการเมื่อคุณทำให้พันธกิจของคุณสำเร็จ "การดีที่ท่านทำนั้นไม่เพียงแต่ช่วยเหลือคนของพระเจ้าที่ขัดสนเท่านั้น แต่ยังทำให้คนทั้งหลายขอบพระคุณพระเจ้าไม่หยุดปาก" (2 โครินธ์ 9:12 ประชานิยม)
แม้พระเจ้าจะปั้นคุณเพื่อรับใช้คนอื่น แต่พระเยซูก็มิได้ตอบสนองความต้องการของทุกคนขณะที่พระองค์อยู่ในโลกนี้ คุณต้องเลือกว่า ใครที่คุณสามารถช่วยได้ดีที่สุดตามลักษณะของคุณ คุณต้องถามว่า "ฉันปราถนาจะช่วยใครมากที่สุด" พระเยซูตรัสว่า "เราแต่งตั้งท่านให้ไปเกิดผลซึ่งเป็นผลถาวร" (ยอห์น 15:16ก ประชานิยม) เราแต่ละคนเกิดผลแตกต่างกัน
อะไรคือสิ่งที่ฉันจะสื่อสารในชีวิต นี่คือคำถามเรื่องภารกิจของคุณต่อผู้ที่ไม่เชื่อ แถลงการณ์ภารกิจของคุณคือ ส่วนหนึ่งของแถลงการณ์วัตถุประสงค์ ซึ่งควรจะรวมถึงการอุทิศตัวเพื่อเล่าคำพยานของคุณ และเล่าข่าวประเสริฐแก่คนอื่น ๆ และคุณควรจะเขียนรายการบทเรียนชีวิตและความร้อนรนในทางพระเจ้า ที่คุณรู้สึกว่าพระเจ้าได้ประทานให้คุณบอกแก่โลกนี้ เมื่อคุณทุ่มเทในการประกาศ อย่าลืมเพิ่มสิ่งนี้เข้าไปในแถลงการณ์ของคุณด้วย
ถ้าคุณเป็นพ่อแม่ ภารกิจส่วนหนึ่งของคุณคือ การเลี้ยงลูกให้รู้จักพระคริสต์ ช่วยให้เขาเข้าใจพระประสงค์ของพระองค์สำหรับชีวิตเขา และส่งเขาออกไปทำภารกิจของเขาในโลก คุณอาจจะผนวกแถลงการณ์ของโยชูวาไว้ในแถลงการณ์ของคุณคือ "แต่ส่วนข้าพเจ้า และครอบครัวของข้าพเจ้า เราจะปรนนิบัติพระเจ้า" (โยชูวา 24:15)
แน่นอน ชีวิตของเราต้องสนับสนุนและรับรองเรื่องราวที่เราสื่อสาร ก่อนที่ผู้ไม่เชื่อส่วนใหญ่จะยอมรับความน่าเชื่อถือของพระคัมภีร์นั้น พวกเขาต้องการรู้เสียก่อนว่าเราเชื่อถือได้ นี่คือเหตุผลที่พระคัมภีร์กล่าวว่า "จงแน่ใจว่าท่านได้ดำเนินชีวิตในลักษณะที่ข่าวประเสริฐของพระคริสต์จะได้รับเกียรติ" (ฟีลิปปี 1:27 NCV)
ชุมชนของชีวิตของฉันจะอยู่ที่ไหน นี่คือคำถามเรื่องสามัคคีธรรม คุณจะแสดงออกถึงการอุทิศตัวเพื่อพี่น้องผู้เชื่อ และความสัมพันธ์กับครอบครัวของพระเจ้าอย่างไร คุณจะปฏิบัติตามคำสั่ง "ซึ่งกันและกัน" กับพี่น้องคริสเตียนที่ไหน ครอบครัวของพระเจ้าไหนที่คุณจะร่วมในฐานะสมาชิกที่ทำหน้าที่ของตน ยิ่งคุณเติบโต คุณก็จะยิ่งรักพระกายของพระคริสต์ และต้องการเสียสละเพื่อคริสตจักร พระคัมภีร์กล่าวว่า "พระคริสต์ทรงรักคริสตจักรและทรงประทานพระองค์เองเพื่อคริสตจักร" (เอเฟซัส 5:25) คุณควรจะรวมประโยคที่แสดงออกถึงความรักต่อคริสตจักรของพระเจ้าไว้ในแถลงการณ์ของคุณ
เมื่อคุณพิจารณาคำตอบของคุณสำหรับคำถามเหล่านี้ จงรวมเอาข้อพระคัมภีร์ที่พูดกับคุณถึงวัตถุประสงค์แต่อย่างเหล่านี้ไว้ด้วย มีหลายข้อในหนังสือเล่มนี้ คุณอาจจะต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์ หรือหลายเดือน เพื่อเรียบเรียงแถลงการณ์วัตถุประสงค์ให้ได้อย่างที่คุณต้องการ จงอธิษฐาน คิด คุยกับเพื่อนสนิท และใคร่ครวญพระคัมภีร์ คุณอาจจะต้องเขียนใหม่หลายครั้งกว่าจะได้ข้อความที่ต้องการในที่สุด และถึงกระนั้น คุณคงจะต้องเปลี่ยนแปลงบ้างเมื่อเวลาผ่านไป เมื่อพระเจ้าประทานความเข้าใจมากขึ้นเรื่องลักษณะ (SHAPE) ของคุณเอง
นอกเหนือจาการเขียนแถลงการณ์วัตถุประสงค์ชีวิตแบบละเอียด การเขียนข้อความแบบสั้นเพื่อให้จำได้และคอยกระตุ้นคุณก็จะเป็นประโยชน์ แล้วคุณจะสามารถเตือนตัวเองได้ทุกวัน ซาโลมอนได้แนะนำว่า "เป็นการดีที่จะจดจำสิ่งเหล่านี้ไว้ในสมอง เพื่อท่านจะพร้อมที่จะพูดทวนสิ่งเหล่านี้ได้" (สุภาษิต 22:18 NCV) มีตัวอย่างบางประโยคดังนี้
๐ "วัตถุประสงค์ชีวิตของฉันคือการนมัสการพระคริสต์ด้วยหัวใจ รับใช้พระองค์ด้วยลักษณะของฉัน สามัคคีธรรมกับครอบครัวของพระองค์ เติบโตเหมือนพระองค์ในเรื่องลักษณะนิสัย และทำให้ภารกิจของพระองค์ในโลกสำเร็จเพื่อพระองค์จะได้รับเกียรติ"
๐ "วัตถุประสงค์ชีวิตของฉันคือการเป็นสมาชิกในครอบครัวของพระคริสต์ เป็นแบบจำลองลักษณะนิสัยของพระองค์ เป็นผู้รับใช้แห่งพระคุณของพระองค์ เป็นผู้สื่อสารพระวจนะของพระองค์ และเป็นผู้ยกย่องพระสิริของพระองค์"
๐ "วัตถุประสงค์ชีวิตของฉันคือการรักพระคริสต์ เติบโตในพระคริสต์ บอกเรื่องพระคริสต์ และรับใช้พระคริสต์ผ่านทางคริสตจักรของพระองค์ และนำครอบครัวของฉันและคนอื่นให้ทำสิ่งเดียวกัน"
๐ "วัตถุประสงค์ชีวิตของฉันคือการอุทิศตัวต่อพระมหาบัญญัติและพระมหาบัญชา"
๐ "เป้าหมายของฉันคือการเป็นเหมือนพระคริสต์ ครอบครัวของฉันคือ คริสตจักร พันธกิจของฉันคือ……………และภารกิจของฉันคือ……………แรงจูงใจของฉันคือพระสิริของพระเจ้า
คุณอาจจะสงสัยว่า "แล้วน้ำพระทัยของพระเจ้าสำหรับอาชีพการงาน หรือการแต่งงานของฉันล่ะ ฉันจะอาศัยอยู่ที่ไหน หรือไปเรียนที่ไหน" พูดตามตรงนะครับ สิ่งเหล่านั้นเป็นเรื่องรองในชีวิตคุณ และเรื่องเหล่านี้อาจจะมีความเป็นไปได้หลายอย่างที่ล้วนเป็นน้ำพระทัยของพระเจ้าสำหรับคุณ สิ่งสำคัญที่สุดคือว่า ให้คุณทำให้พระประสงค์นิรันดร์ของพระเจ้าสำเร็จไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน ทำงานที่ไหน หรือแต่งงานกับใคร พระคัมภีร์กล่าวว่า "ในใจมนุษย์มีแผนงานเป็นอันมาก แต่พระประสงค์ของพระเจ้านั่นแหละจะดำรงอยู่ได้" (สุภาษิต 19:21) จงจดจ่อที่พระประสงค์ของพระเจ้าสำหรับชีวิตคุณ ไม่ใช่ที่แผนการของคุณ เพราะพระประสงค์ของพระเจ้าคือ สิ่งที่คงอยู่ตลอดไป
ครั้งหนึ่ง ผมได้ยินคำแนะนำว่า ให้คุณเขียนแถลงการณ์วัตถุประสงค์ชีวิตของคุณโดยดูว่าคุณต้องการให้คนอื่นพูดถึงคุณอย่างไรในงานศพของคุณ ลองจินตนาการคำเยินยอที่สมบูรณ์ที่สุดที่คุณจะได้รับ แล้วเขียนแถลงการณ์ของคุณตามนั้น พูดตรง ๆ นะครับ นั่นเป็นแผนการที่แย่ เมื่อถึงปั้นปลายของคุณ มันจะไม่สำคัญว่าคนอื่นจะพูดอะไรเกี่ยวกับคุณ สิ่งเดียวที่สำคัญคือพระเจ้าจะตรัสอะไรเกี่ยวกับคุณ พระคัมภีร์กล่าวว่า "จุดหมายของเราคือทำให้พระเจ้าพอพระทัย ไม่ใช่เอาใจมนุษย์" (1 เธสะโลนิกา 2:4ข NLT)
วันหนึ่ง พระเจ้าจะทบทวนคำตอบของคุณสำหรับคำถามชีวิตเหล่านี้ คุณได้ให้พระคริสต์อยู่ที่ศูนย์กลางชีวิตคุณหรือไม่ คุณได้พัฒนาลักษณะนิสัยของคุณหรือไม่ คุณอุทิศชีวิตเพื่อรับใช้คนอื่นหรือไม่ คุณรักและเข้าร่วมในครอบครัวของพระองค์หรือไม่ สิ่งเหล่านี้เท่านั้นที่เป็นเรื่องสำคัญ ตามที่เปาโลกล่าวว่า "เป้าหมายของเราคือทำให้สำเร็จตามแผนการของพระเจ้าสำหรับเรา" (2 โครินธ์ 10:13 LB)
พระเจ้าต้องการใช้คุณ
ประมาณสามสิบปีก่อน ผมได้สังเกตเห็นวลีสั้น ๆ ในกิจการ 13:36 ซึ่งเปลี่ยนทิศทางชีวิตของผมตลอดไป มันยาวแค่เจ็ดคำในภาษาอังกฤษ แต่มันจารึกลงไปในชีวิตผมอย่างถาวรเหมือนประทับตราด้วยเหล็กร้อน "ดาวิดปรนนิบัติตามพระทัยพระเจ้าในชั่วอายุของท่าน" (กิจการ 13:36 2002) ตอนนี้ผมเข้าใจแล้วว่า ทำไมพระเจ้าตรัสถึงดาวิดว่า "คนที่เราชอบใจ" (กิจการ 3:22) ดาวิดได้ถวายชีวิตของท่านเพื่อทำให้พระประสงค์ของพระเจ้าสำเร็จในโลกนี้
ไม่มีคำจารึกบนหลุมฝังศพใด ๆ ที่ยิ่งใหญ่กว่าข้อความนี้ และลองนึกภาพสิครับว่าข้อความนี้ถูกสลักไว้บนหลุมฝังศพของคุณ สลักว่าคุณได้รับใช้ตามพระประสงค์ของพระเจ้าในชั่วอายุของคุณ คำอธิษฐานของผมคือ ขอให้ผู้คนสามารถพูดถึงผมเช่นนั้นเมื่อผมตายไป และเป็นคำอธิษฐานของผมเช่นกันว่า พวกเขาจะพูดถึงคุณเช่นนั้นด้วย นั่นคือเหตุผลที่ผมเขียนหนังสือเล่มนี้เพื่อคุณ วลีนี้คือคำนิยามสูงสุดของชีวิตที่ดำเนินมาอย่างดี คุณทำสิ่งที่เป็นนิรันดร์และเหนือกาลเวลา (พระประสงค์ของพระเจ้า) ในลักษณะที่ร่วมสมัยและเหมาะสมกับกาลเวลา (ในชั่วอายุของคุณ) นั่นแหละคือชีวิตที่เคลื่อนไปด้วยวัตถุประสงค์ คนชั่วอายุก่อนหรือคนในอนาคตไม่สามารถรับใช้ตามพระประสงค์ของพระเจ้าในชั่วอายุนี้เราเท่านั้นที่ทำได้ เช่นเดียวกันกับเอสเธอร์ พระเจ้าทรงสร้างคุณ "เพื่อยามวิกฤตเช่นนี้" (เอสเธอร์ 4:14)
พระเจ้ายังคงมองหาคนที่พระองค์จะทรงใช้ พระคัมภีร์กล่าวว่า "พระเจ้าทรงเฝ้าดูพิภพโลกอย่างใกล้ชิด ประทานพลังให้ผู้ที่จงรักภักดีต่อพระองค์" (2 พงศาวดาร 16:9 ประชานิยม) คุณจะเป็นคนที่พระเจ้าสามารถใช้เพื่อพระประสงค์ของพระองค์หรือไม่ คุณจะรับใช้พระประสงค์ของพระเจ้าในชั่วอายุของคุณหรือไม่
เปาโลได้ดำเนินชีวิตที่เคลื่อนไปด้วยวัตถุประสงค์ ท่านกล่าวว่า " ข้าพเจ้าวิ่งแข่งโดยมีเป้าหมาย" (1 โครินธ์ 9:26) เหตุผลเดียวของท่านในการดำเนินชีวิตคือ การทำให้พระประสงค์ของพระเจ้าที่มีไว้สำหรับท่านสำเร็จ ท่านกล่าวว่า "สำหรับข้าพเจ้านั้น การมีชีวิตอยู่ก็เพื่อพระคริสต์ และการตายก็ได้กำไร" (ฟีลิปปี 1:21) เปาโล ไม่กลัวทั้งการมีชีวิตอยู่หรือตาย จะแบบไหนก็ได้ที่ท่านจะทำให้พระประสงค์ของพระเจ้าสำเร็จ ท่านไม่มีทางล้มเหลว
วันหนึ่งประวัติศาสตร์จะสิ้นสุด แต่นิรันดรกาลจะดำเนินตลอดไป วิลเลี่ยม แครี่กล่าวว่า "อนาคตนั้นสดใสเท่ากับพระสัญญาของพระเจ้า" เมื่อการบรรลุวัตถุประสงค์ของคุณดูเหมือนยาก จงอย่ายอมแพ้ต่อความท้อใจ จงระลึกถึงรางวัลของคุณซึ่งจะคงอยู่ถาวร พระคัมภีร์กล่าวว่า "เพราะว่าการทุกข์เล็ก ๆ น้อย ๆ ของเรา ซึ่งเรารับอยู่ประเดี๋ยวเดียวนั้นจะทำให้เรามีศักดิ์ศรีถาวรมากหาที่เปรียบมิได้" (2 โครินธ์ 4:17)
ลองจินตนาว่าจะเกิดอะไรขึ้นในวันหนึ่ง เมื่อเราทุกคนจะยืนอยู่ต่อหน้าพระที่นั่งของพระเจ้า มอบถวายชีวิตของเราด้วยความขอบพระคุณอย่างลึกซึ้ง และถวายสรรเสริญแด่พระคริสต์ เราจะพูดพร้อมกันว่า "องค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย พระองค์ทรงสมควรที่จะได้รับคำสรรเสริญ พระเกียรติและฤทธิ์เดช เพราะว่าพระองค์ได้ทรงสร้างสรรพสิ่งทั้งปวง และสรรพสิ่งทั้งปวงนั้นก็ทรงสร้างขึ้นแล้วและดำรงอยู่ตามพระทัยของพระองค์" (วิวรณ์ 4:11) เราจะสรรเสริญพระองค์เพราะแผนการของพระองค์และมีชีวิตอยู่เพื่อพระประสงค์ของพระองค์ตลอดไป
วันที่ 40 คิดถึงวัตถุประสงค์ของฉัน
ประเด็นสำหรับการใคร่ครวญ: การดำเนินชีวิตด้วยวัตถุประสงค์เป็นวิธีเดียวที่จะมีชีวิตอย่างแท้จริง
ข้อพระคัมภีร์สำหรับท่องจำ: "ดาวิดปรนนิบัติตามพระทัยพระเจ้าในชั่วอายุของท่าน" กิจการ 13:36 (2002)
คำถามสำหรับการพิจารณา: ฉันจะใช้เวลาช่วงไหนเขียนคำตอบสำหรับคำถามสำคัญห้าข้อนี้ ฉันจะเขียนวัตถุประสงค์ของฉันลงบนกระดาษเมื่อไร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น