วันพุธที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2555

วันที่ 38 การเป็นคริสเตียนระดับโลก

พระองค์ตรัสสั่งพวกสาวกว่า "พวกท่านจงออกไปทั่วโลกประกาศข่าวประเสริฐแก่มนุษย์ทุกคน"
มาระโก 16:15 (2002)

ขอทรงส่งเราออกไปทั่วโลกด้วยข่าวเรื่องฤทธิ์เดชที่ช่วยให้รอดของพระองค์ และแผนการนิรันดร์ของพระองค์สำหรับมนุษยชาติทั้งสิ้น
สดุดี 67:2 (LB)

พระมหาบัญชาคือคำบัญชาที่จะมาถึงคุณ

คุณต้องเลือกว่าจะเป็นคริสเตียนระดับโลกหรือคริสเตียนฝ่ายโลก

คริสเตียนฝ่ายโลกพึ่งพระเจ้าเพื่อความพึงพอใจส่วนตัวเป็นหลัก แม้จะได้รับความรอดแล้วแต่ก็ยังเห็นแก่ตัว พวกเขาชอบไปฟังการแสดงดนตรีและสัมมนาที่เสริมสร้างตัวเอง แต่คุณจะไม่มีวันพบพวกเขาในสัมมนาพันธกิจเพราะว่าพวกเขาไม่สนใจ คำอธิษฐานของพวกเขาจดจ่อที่ความต้องการ พระพร และความสุขของตัวเอง มันเป็นความเชื่อแบบ "ฉันต้องมาก่อน" พระเจ้าจะทำให้ชีวิตของผมสบายขึ้นได้อย่างไร พวกเขาต้องการใช้พระเจ้าเพื่อวัตถุประสงค์ของพวกเขา แทนที่จะยอมให้พระเจ้าใช้เขาเพื่อพระประสงค์ของพระองค์

ตรงกันข้าม คริสเตียนระดับโลกรู้ว่าพวกเขาได้รับความรอดเพื่อจะรับใช้ และถูกสร้างเพื่อทำภารกิจ พวกเขากระตือรือร้นที่จะทำหน้าที่มอบหมายส่วนตัว และตื่นเต้นกับสิทธิพิเศษในการที่พระเจ้าใช้พวกเขา คริสเตียนระดับโลกเป็นคนจำพวกเดียวที่มีชีวิตอย่างเต็มที่ในโลกนี้ ความยินดี ความมั่นใจ และความกระตือรือร้นของพวกเขาแพร่ระบาดไป เพราะพวกเขารู้ว่าเขากำลังทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง พวกเขาตื่นขึ้นทุกเช้าโดยคาดหวังว่าพระเจ้าจะทรงทำงานผ่านพวกเขาในวิธีใหม่ ๆ แล้วคุณล่ะครับต้องการเป็นคริสเตียนแบบไหน

พระเจ้าทรงเชื้อเชิญคุณให้ร่วมในอุดมการณ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด กว้างขวางที่สุด หลากหลายที่สุด และสำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ นั่นคืออาณาจักรของพระองค์ ประวัติศาสตร์คือเรื่องราวของพระองค์ พระองค์ทรงสร้างครอบครัวของพระองค์เพื่อนิรันดรกาล ไม่มีอะไรสำคัญกว่า และไม่มีอะไรที่จะคงอยู่นานกว่า จากพระธรรมวิวรณ์ เรารู้ว่าวันหนึ่งภารกิจโลกของพระเจ้าจะสำเร็จ วันหนึ่งพระมหาบัญชาจะเป็นมหาสำเร็จ วันหนึ่งในสวรรค์ฝูงชนมหาศาลคือ ผู้คนจาก "ทุกประชาชาติ ทุกเผ่า ทุกชนชาติ และทุกภาษา" (วิวรณ์ 7:9 2002) จะยืนต่อพระพักตร์พระเยซูคริสต์เพื่อนมัสการพระองค์ การเข้าร่วมเป็นคริสเตียนระดับโลกจะช่วยให้คุณมีประสบการณ์ล่วงหน้าสักเล็กน้อยว่า ในสวรรค์จะเป็นอย่างไร

เมื่อพระเยซูทรงบอกผู้ที่ติดตามพระองค์ว่า "จงออกไปทั่วโลก ประกาศข่าวประเสริฐแก่มนุษย์ทุกคน" สาวกยากจนชาวตะวันออกกลางกลุ่มเล็ก ๆ ต่างหนักใจ นี่พวกเขาต้องเดิน หรือขี่สัตว์ไปอย่างเชื่องช้าใช่ไหม นั่นคือพาหนะที่พวกเขามีสำหรับเดินทาง และไม่มีเรือเดินทางข้ามมหาสมุทร พวกเขาจึงมีอุปสรรคทางกายภาพจริง ๆ ในการจะออกไปทั่วโลก

เวลานี้ เรามีเครื่องบิน เรือ รถไฟ รถโดยสาร และรถยนต์ โลกนี้ช่างแคบเหลือเกินซ้ำยังหดตัวลงทุกวัน คุณสามารถบินข้ามมหาสมุทรภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง และกลับบ้านในวันต่อมา ถ้าคุณต้องการโอกาสสำหรับคริสเตียนธรรมดาที่จะร่วมทำพันธกิจนานนาชาติระยะสั้นนั้นไม่มีข้อจำกัดในเวลานี้ คุณไปทุกมุมโลกได้ ขอเพียงแค่ถามบริษัทท่องเที่ยวเท่านั้น เราไม่มีข้อแก้ตัวที่จะไม่เผยแพร่ข่าวประเสริฐ

เวลานี้ ด้วยอินเตอร์เน็ท โลกก็ยิ่งเล็กลง นอกเหนือจากโทรศัพท์และโทรสาร ผู้เชื่อทุกคนที่สามารถเข้าถึงอินเตอร์เน็ตก็สามารถติดต่อเป็นส่วนตัวกับผู้คนในเกือบทุกประเทศในโลกนี้ โลกทั้งโลกอยู่ที่ปลายนิ้วของคุณ

แม้แต่หมู่บ้านห่างไกลจำนวนมากก็ได้รับอีเมล์ คุณจึงสามารถสนทนา "ประกาศแบบอิเล็กทรอนิกส์" กับคนในอีกซีกโลกโดยไม่ต้องออกจากบ้านของคุณ การทำให้ภารกิจของคุณในการออกไปทั่วโลกสำเร็จนั้นไม่เคยง่ายกว่านี้มาก่อน อุปสรรคประการเดียวคือวิธีคิดของเรา ถ้าจะเป็นคริสเตียนระดับโลก คุณก็ต้องเปลี่ยนแปลงแนวคิดบางอย่าง มุมมองและท่าทีของคุณต้องเปลี่ยนไป

คิดอย่างคริสเตียนระดับโลก

เปลี่ยนจากความคิดที่เห็นแก่ตัวสู่ความคิดที่เห็นแก่คนอื่น พระคัมภีร์กล่าวว่า "พี่น้องทั้งหลาย อย่ามัวคิดอย่างเด็ก ๆ อยู่เลย แต่จงคิดอย่างผู้ใหญ่" (1 โครินธ์ 14:20 ประชานิยม) นี่คือก้าวแรกของการเป็นคริสเตียนระดับโลก เด็ก ๆ คิดถึงแต่ตัวเองเท่านั้นแต่ผู้ใหญ่จะคิดถึงผู้อื่น พระเจ้าทรงบัญชาว่า "อย่าคิดถึงตนเองฝ่ายเดียว แต่จงคิดถึงผู้อื่นด้วย" (ฟีลิปปี 2:4 ประชานิยม)

แน่นอน นี่เป็นการปรับความคิดที่ยาก เพราะว่าโดยธรรมชาติแล้วเราหมกมุ่นกับตัวเอง และโฆษณาเกือบทุกชิ้นก็ส่งเสริมให้เราคิดถึงตัวเราเอง ทางเดียวที่เราสามารถเปลี่ยนกรอบความคิดนี้ก็คือ การพึ่งพระเจ้าทุกเวลา ยังดีที่พระองค์ไม่ได้ละทิ้งให้เราดิ้นรนด้วยตัวเอง "พระเจ้าได้ประทานพระวิญญาณของพระองค์แก่เรา นี่คือสาเหตุที่เราคิดไม่เหมือนคนในโลกนี้" (1 โครินธ์ 2:12 CEV)

จงเริ่มทูลขอพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่จะทรงช่วยคุณให้คิดถึงความต้องการฝ่ายวิญญาณของคนที่ยังไม่เชื่อเมื่อคุณพูดคุยกับพวกเขา และโดยการฝึกฝนคุณจะสามารถสร้างนิสัยของการอธิษฐานเงียบ ๆ "เป็นลมหายใจ" เพื่อคนเหล่านั้นที่คุณพบเจอ อธิษฐานว่า "พระบิดาขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้เข้าใจสิ่งที่ขัดขวางคนผู้นี้ไม่ให้รู้จักพระองค์"

เป้าหมายของคุณคือ การค้นหาว่าคนอื่นอยู่ที่ไหนในการเดินทางฝ่ายวิญญาณ แล้วก็ทำทุกวิถีทางที่จะนำพวกเขาเข้าใกล้การรู้จักพระคริสต์มากขึ้น คุณสามารถเรียนรู้การทำสิ่งนี้โดยการรับแนวคิดของเปาโลที่กล่าวว่า "ข้าพเจ้ามิได้เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว แต่เห็นแก่ประโยชน์ของคนทั้งหลาย เพื่อให้เขารอดได้" (1 โครินธ์ 10:33)

เปลี่ยนจากการคิดระดับท้องถิ่นสู่การคิดระดับโลก พระเจ้าทรงเป็นพระเจ้าของโลก พระองค์ทรงห่วงใยโลกทั้งโลกตลอดมา "พระเจ้าทรงรักโลก…" (ยอห์น 3:16) ตั้งแต่ปฐมกาลพระองค์ต้องการสมาชิกครอบครัวจากคนทุกชาติที่พระองค์ได้ทรงสร้างขึ้น พระคัมภีร์กล่าวว่า "พระองค์ได้ทรงสร้างมนุษย์ทุกชาติสืบสายโลหิตอันเดียวกันให้อยู่ทั่วพิภพโลก และได้ทรงกำหนดเวลาและเขตแดนให้เขาอยู่ เพื่อเขาจะได้แสวงหาพระเจ้า และมุ่งหวังจะคลำหาให้พบพระองค์" (กิจการ 17:26-27)

เวลานี้คนส่วนใหญ่ในโลกคิดระดับโลกอยู่แล้ว สื่อที่ใหญ่ที่สุดและกลุ่มธุรกิจที่เป็นเครือข่ายล้วนเป็นองค์กรที่ดำเนินกิจการในหลายประเทศ ชีวิตของเราเชื่อมประสานกับคนในชาติอื่น ๆ ด้วยแฟชั่น ความบันเทิง ดนตรี กีฬา และแม้แต่อาหารจานด่วนที่เราบริโภคเหมือน ๆ กัน เสื้อผ้าที่คุณใส่และสิ่งที่คุณกินส่วนมากอาจผลิตขึ้นในประเทศอื่น เรามีความเชื่อมโยงกันมากกว่าที่เรารู้ตัว

นี่เป็นช่วงเวลาที่น่าตื้นเต้นในการมีชีวิตอยู่ เวลานี้มีคริสเตียนในโลกมากกว่าที่เคยมีมาในอดีต เปาโลกล่าวอย่างถูกต้องว่า "ข่าวประเสริฐเดียวกันนี้ที่มาถึงท่านกำลังแพร่ออกไปทั่วโลก มันกำลังเปลี่ยนแปลงชีวิตคนทุกหนทุกแห่ง เช่นเดียวกับที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของท่าน" (โคโลสี 1:6 NLT)

วิธีแรกในการเริ่มต้นคิดระดับโลกคือ การเริ่มอธิษฐานเพื่อบางประเทศอย่างเจาะจงคริสเตียนระดับโลกจะอธิษฐานเพื่อโลก ให้คุณหาลูกโลกหรือแผนที่และอธิษฐานออกชื่อเพื่อประเทศต่าง ๆ พระคัมภีร์กล่าวว่า "จงขอจากเราเถิด และเราจะมอบบรรดาประชาชาติให้เป็นมรดกของเจ้า ตลอดทั้งแผ่นดินโลกให้เป็นกรรมสิทธิ์ของเจ้า" (สดุดี 2:8)

คำอธิษฐานเป็นเครื่องมือสำคัญที่สุดสำหรับภารกิจของคุณในโลกนี้ คนอาจปฏิเสธความรักของเรา หรือไม่ยอมรับเรื่องราวของเรา แต่พวกเขาไม่สามารถป้องกันตัวจากคำอธิษฐานของเราได้ เช่นเดียวกับขีปนาวุธข้ามทวีป คุณสามารถเล็งคำอธิษฐานที่หัวใจของบุคคลคนหนึ่ง ไม่ว่าคุณอยู่ห่างออกไปสิบฟุตหรือ 10,000 ไมล์ก็ตาม

คุณควรอธิษฐานเผื่ออะไร พระคัมภีร์บอกเราให้อธิษฐานเพื่อโอกาสในการเป็นพยาน (โคโลสี 4:3, โรม 1:10) เพื่อความกล้าที่จะพูด (เอเฟซัส 6:19) เพื่อผู้ที่จะเชื่อ (ยอห์น 17:20) เพื่อการเผยแพร่ข่าวประเสริฐอย่างรวดเร็ว (2 เธสะโลนิกา 3:1) และเพื่อจะมีคนงานมากขึ้น (มัทธิว 9:38) การอธิษฐานทำให้คุณเป็นเพื่อนร่วมงานกับพี่น้องคริสเตียนทั่วโลก

คุณควรจะอธิษฐานเพื่อมิชชันนารี และคนอื่น ๆ ที่มีส่วนร่วมในการเก็บเกี่ยวทั่วโลก เปาโลบอกคู่อธิษฐานของท่านว่า "พวกท่านก็มีส่วนช่วยโดยการทูลขอเผื่อเรา" (2 โครินธ์ 1:11 2002) ถ้าคุณต้องการคำแนะนำเรื่องการอธิษฐานอย่างจริงจังเพื่อโลกและคนงานคริสเตียน ขอให้ดูภาคผนวก 2

อีกวิธีหนึ่งที่จะพัฒนาการคิดระดับโลกคือการอ่านและดูข่าวด้วย "สายตาพระมหาบัญชา" ที่ใดที่มีการเปลี่ยนแปลงหรือขัดแย้ง คุณสามารถแน่ใจได้ว่า พระเจ้าจะทรงใช้สิ่งนี้เพื่อนำคนมาหาพระองค์ คนเปิดรับพระเจ้ามากที่สุดเมื่อพวกเขาเผชิญความกดดันหรือความเปลี่ยนแปลง และเนื่องจากอัตราการเปลี่ยนแปลงในโลกนี้กำลังเพิ่มขึ้น จึงมีคนที่เปิดใจรับฟังข่าวประเสริฐในเวลานี้มากยิ่งกว่าที่เคยมีมา

วิธีที่ดีที่สุดที่จะเปลี่ยนมาสู่การคิดระดับโลกคือ ลุกขึ้นและไปร่วมโครงการพันธกิจระยะสั้นในอีกประเทศหนึ่ง ไม่มีอะไรจะสามารถทดแทนประสบการณ์ชีวิตจริงที่จับต้องได้ในสังคมต่างวัฒนธรรม จงหยุดศึกษาและอภิปรายเรื่องภาระกิจของคุณ และลงมือทำเลยผมท้าคุณให้ดำดิ่งลงไปสุดตัวไป ในกิจการ 1:8 พระเยซูประทานรูปแบบของการมีส่วนร่วมแก่เราว่า "ท่านจะบอกทุกคนให้รู้เรื่องของเรา ในกรุงเยรูซาเล็ม ทั่วแคว้นยูเดีย แคว้นสะมาเรีย และทุกหนทุกแห่งในโลกนี้" (กิจการ 1:8 CEV) ผู้ติดตามพระองค์จะต้องประกาศแก่ชุมชนของพวกเขา (กรุงเยรูซาเล็ม) แก่ประเทศของพวกเขา (แคว้นยูเดีย) แก่วัฒนธรรมอื่น (แคว้นสะมาเรีย) และแก่ประเทศอื่น (ทุกแห่งในโลกนี้) สังเกตว่าพระบัญชาที่เราได้รับนี้เป็นการทำไป พร้อม ๆ กัน ไม่ใช่เรียงตามลำดับ แม้ว่าไม่ใช่ทุกคนจะมีของประทานเป็นมิชชันนารี แต่คริสเตียนทุกคนได้รับการทรงเรียกให้ทำภารกิจกับคนทั้งสี่กลุ่มนี้ในบางรูปแบบ คุณเป็นคริสเตียนกิจการ 1:8 หรือไม่

จงตั้งเป้าที่จะเข้าร่วมในโครงการประกาศแก่เป้าหมายแต่ละกลุ่มในทั้งสี่กลุ่มนี้ ผมของเร่งเร้าคุณให้เก็บเงิน และทำทุกสิ่งที่จำเป็นเพื่อร่วมเดินทางไปทำภารกิจระยะสั้น ในต่างประเทศให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ องค์กรมิชชันนารีเกือบทุกแห่งสามารถช่วยคุณได้ มันจะขยายหัวใจของคุณ ขยายนิมิตของคุณ ยึดความเชื่อของคุณ และทำให้ความเมตตาของคุณหยั่งลึกยิ่งขึ้น รวมทั้งเติมความยินดีให้คุณอย่างที่คุณไม่เคยพบมาก่อน และมันสามารถเป็นจุดหักเหในชีวิตของคุณได้

เปลี่ยนจากความคิด "ที่นี้และเดี๋ยวนี้" เป็นการคิดถึงนิรันดรกาล ถ้าใช้เวลาในโลกนี้ให้คุ้มค่าที่สุด คุณก็ต้องรักษามุมมองนิรันดร์ไว้ เพราะมันจะป้องกันคุณไม่ให้มองเรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่ และช่วยคุณแยกแยะระหว่างสิ่งเร่งด่วนและสิ่งที่สำคัญที่สุด เปาโลกล่าวว่า "เพราะว่าเราไม่ได้เห็นแก่สิ่งของที่เรามองเห็นอยู่ แต่เห็นแก่สิ่งที่มองไม่เห็นเพราะว่าสิ่งของซึ่งมองเห็นอยู่นั้นเป็นของไม่ยั่งยืน แต่สิ่งซึ่งมองไม่เห็นนั้นก็ถาวรนิรันดร์" (2 โครินธ์ 4:18)

หลายสิ่งที่เราทุ่มเทพลังงานให้ในเวลานี้ จะหมดความสำคัญแม้กระทั่งในหนึ่งปีข้างหน้า ในนิรันดรกาลยิ่งไม่ต้องพูดถึง อย่าแลกชีวิตของคุณกับสิ่งที่คงอยู่ชั่วคราว พระเยซูทรงตรัสว่า "ผู้ใดที่ปล่อยให้ตัวเองหันเหจากงานที่เรากำหนดให้ ก็ไม่คู่ควรกับแผ่นดินของพระเจ้า" (ลูกา 9:62 LB) เปาโลได้เตือนว่า "จงยุ่งกับสิ่งที่โลกยัดเยียดแก่ท่านให้น้อยที่สุดเท่าที่ทำได้ โลกที่คุณเห็นอยู่นี้กำลังจะล่วงไป" (1 โครินธ์ 7:31 Msg)

มีสิ่งใดที่คุณปล่อยให้ยืนขวางทางภารกิจของคุณ มีอะไรขัดขวางคุณจากการเป็นคริสเตียนระดับโลก ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นอะไรก็ตาม จงปล่อยมันไป "ให้เราละทิ้งทุกอย่างที่ถ่วงอยู่และบาปที่เกาะแน่น" (ฮีบรู 12:1)

พระเยซูตรัสบอกเราให้ "สั่งสมทรัพย์สมบัติไว้ในสวรรค์" (มัทธิว 6:20-21) เราจะทำได้อย่างไร ในคำตรัสที่คนเข้าใจผิดมากที่สุดตอนหนึ่ง พระเยซูได้ตรัสว่า "เราบอกท่านทั้งหลายว่า จงกระทำตัวให้มีมิตรสหายด้วยทรัพย์สมบัติฝ่ายโลก เพื่อเมื่อทรัพย์นั้นเสียไปแล้ว เขาจะได้ต้อนรับท่านไว้ในที่อาศัยอันถาวรเป็นนิตย์" (ลูกา 16:9 NIV) พระเยซูมิได้หมายความว่าให้คุณใช้เงิน "ซื้อ" เพื่อน ความหมายของพระองค์คือ คุณควรจะใช้เงินที่พระเจ้าประทานแก่คุณเพื่อนำคนมาถึงพระคริสต์ แล้วพวกเขาก็จะเป็นเพื่อนชั่วนิรันดร์ที่จะต้อนรับคุณเมื่อพวกเขาไปถึงสวรรค์ มันเป็นการลงทุนทางการเงินที่ดีที่สุด ที่คุณจะทำได้

คุณอาจเคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า "คุณเอาเงินทองติดตัวไปไม่ได้" แต่พระคัมภีร์บอกว่าคุณสามารถส่งมันไปล่วงหน้า โดยการลงทุนในคนที่จะไปอยู่ที่นั่น พระคัมภีร์กล่าวว่า "เมื่อทำอย่างนี้ พวกเขาก็จะสะสมทรัพย์สมบัติไว้ให้กับตัวเองในสวรรค์ นี่เป็นวิธีเดียวที่จะลงทุนอย่างปลอดภัยสำหรับนิรันดรกาลและพวกเขาจะมีชีวิตคริสเตียนที่เกิดผลบนโลกนี้เช่นกัน" (1 ทิโมธี 6:19 LB)

เปลี่ยนจากการคิดหาข้อแก้ตัว เป็นการคิดหาวิธีการสร้างสรรค์เพื่อทำให้พระบัญชาที่คุณได้รับสำเร็จ ถ้าคุณเต็มใจเสียอย่าง มันก็จะมีวิธีที่จะทำได้เสมอ และยังมีองค์กรต่าง ๆ ที่จะช่วยคุณด้วย ต่อไปนี้เป็นคำแก้ตัวที่ได้ยินกันบ่อย ๆ

๐ "ผมพูดได้แต่ภาษาอังกฤษ" ที่จริง นี่เป็นข้อได้เปรียบในหลายประเทศซึ่งคนนับล้าน ๆ อยากเรียนภาษาอังกฤษ และกระตือรือร้นที่จะฝึกฝนภาษานี้
๐ "ผมไม่มีอะไรที่จะให้" มีสิ คุณมีความสามารถและประสบการณ์ทุกอย่างในลักษณะ (SHAPE) ของคุณสามารถใช้ได้ในสถานที่บางแห่ง
๐ "ผมแก่เกินไป (เด็กเกินไป)" องค์กรมิชชั่นส่วนใหญ่มีโครงการระยะสั้นที่เหมาะสมกับวัย

ไม่ว่าจะเป็นนางซาราห์ที่อ้างว่านางอายุมากเกินไปที่พระเจ้าจะใช้ หรือ เยเรมีย์ที่อ้างว่า ตนอายุน้อยเกินไป พระเจ้าก็ปฏิเสธคำแก้ตัวของพวกเขา พระเจ้าตรัสตอบว่า "อย่าพูดเช่นนั้น เพราะเจ้าต้องไปในทุกที่ซึ่งเราส่งเจ้าไป และพูดทุกสิ่งที่เราบอกเจ้า และอย่ากลัวคนเหล่านั้น เพราะเราจะอยู่กับเจ้าและดูแลเจ้า" (เยเรมีย์ 1:7-8 NLT)

บางทีคุณอาจจะเคยเชื่อว่า คุณต้องได้รับ "การทรงเรียก" พิเศษจากพระเจ้า และคุณได้เฝ้าคอยความรู้สึกหรือประสบการณ์เหนือธรรมชาติบางอย่าง แต่พระเจ้าได้ตรัสเรียกไว้แล้วตั้งหลายครั้ง เราทุกคนได้รับการทรงเรียกให้ทำพระประสงค์ห้าประการสำหรับชีวิตของเราให้สำเร็จ คือ นมัสการ สามัคคีธรรม เติบโตขึ้นเหมือนพระคริสต์รับใช้และทำภารกิจร่วมกับพระเจ้าในโลกนี้ พระเจ้าไม่ได้ต้องการใช้คนของพระองค์เพียงแค่บางคน พระองค์ต้องการใช้คนทั้งหมดในคริสตจักรของพระองค์นำข่าวประเสริฐไปสู่ทั้งโลก

คริสเตียนหลายคนได้พลาดจากแผนการของพระเจ้าสำหรับชีวิตของพวกเขา เพราะว่าพวกเขาไม่เคยแม้แต่จะถามพระเจ้าว่า พระองค์ต้องการให้พวกเขารับใช้ในฐานะมิชชันนารีไปยังที่บางแห่งหรือไม่ ไม่ว่าจะด้วยความกลัวหรือความเขลา พวกเขาได้ปิดสมองของตนโดยอัตโนมัติ จากความเป็นไปได้ในการเป็นมิชชันนารีที่จะอาศัยอยู่ในอีกวัฒนธรรมหนึ่ง ถ้าคุณถูกล่อลวงให้ปฏิเสธ คุณควรจะตรวจสอบดูวิธีการและความเป็นไปได้ต่าง ๆ ซึ่งมีอยู่ในเวลานี้ (นี่จะทำให้คุณแปลกใจ) และคุณควรจะอธิษฐานอย่างจริงจังและถามพระเจ้าถึงสิ่งที่พระองค์ต้องการจากคุณในหลาย ๆ ปีข้างหน้า มิชันนารีระยะยาวนับพัน ๆ คนกำลังเป็นที่ต้องการอย่างมากในช่วงเวลาสำคัญของประวัติศาสตร์นี้ซึ่งประตูกำลังเปิดกว้างอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

ถ้าคุณต้องการเป็นเหมือนพระเยซู คุณก็ต้องมีหัวใจเพื่อทั้งโลก คุณไม่สามารถพึงพอใจเพียงแค่ครอบครัวและเพื่อนของคุณได้มาเชื่อพระคริสต์ มีคนกว่า 6 พันล้านคนบนโลก และพระเยซูต้องการให้บุตรที่หลงหายของพระองค์ทุกคนได้กลับมา พระเยซูตรัสว่า "คนที่อยากเอาตัวรอดก็จะสูญเสียชีวิตแท้ไป ส่วนคนที่ยอมสละชีวิตของตัวเองเพื่อเราและข่าวดีนั้นก็จะรักษาชีวิตแท้ไว้ได้" (มาระโก 8:35 อ่านเข้าใจง่าย) มหาบัญชาเป็นคำบัญชาที่มาถึงคุณ และการทำส่วนของคุณก็เป็นเคล็ดลับของการดำเนินชีวิตที่มีความหมาย

วันที่ 38 คิดถึงวัตถุประสงค์ของฉัน

ประเด็นสำหรับการใคร่ครวญ: พระมหาบัญชาคือคำบัญชาที่มาถึงฉัน

ข้อพระคัมภีร์สำหรับท่องจำ: "ขอทรงส่งเราออกไปทั่วโลกด้วยข่าวเรื่องฤทธิ์เดชที่ช่วยให้รอดของพระองค์ และแผนการนิรันดร์ของพระองค์สำหรับมนุษยชาติทั้งสิ้น" สดุดี 67:2 (LB)

คำถามสำหรับการพิจารณา: ฉันต้องเตรียมตัวอะไรบ้างเพื่อจะไปกับโครงการพันธกิจระยะสั้นในปีหน้า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น