วันเสาร์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2555

วันที่ 15 สร้างขึ้นมาเพื่อครอบครัวของพระเจ้า

วัตถุประสงค์ที่ 2
คุณถูกสร้างขึ้นมาเพื่อครอบครัวของพระเจ้า

เราเป็นเถาองุ่น ท่านทั้งหลายเป็นแขนง
ยอห์น 15:5

พระคริสต์ทรงทำให้เราเป็นกายเดียวกัน… ต่อประสานกับกันและกัน
โรม 12:5 (GWT)

วันที่ 15
สร้างขึ้นมาเพื่อครอบครัวของพระเจ้า

พระเจ้าสร้างทุกสิ่งทุกอย่าง และทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นมาเพื่อพระองค์ พระเจ้าต้องการที่จะนำลูก ๆ มากมายมามีส่วนร่วมในเกียรติยศของพระองค์
ฮีบรู 2:10ก (อ่านเข้าใจง่าย)

ดูชิว่าพระบิดารักเรามากเพียงใด พระองค์ทรงรักเรามากยิ่งนัก จนให้เราได้ชื่อว่าเป็นบุตรของพระเจ้า แล้วเราก็เป็นดังนั้นจริง ๆ
1 ยอห์น 3:1 (ประชานิยม)

คุณถูกสร้างมาเพื่อครอบครัวของพระเจ้า

พระเจ้าต้องการครอบครัว และพระองค์ทรงสร้างคุณให้เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวนี้ นี่เป็นวัตถุประสงค์ประการที่สองของพระเจ้าสำหรับชีวิตคุณ ซึ่งพระองค์ทรงวางแผนไว้ตั้งแต่ก่อนที่คุณจะเกิดมา พระคัมภีร์ทั้งเล่มคือเรื่องของพระเจ้าทรงสร้างครอบครัวที่จะรักพระองค์ ให้เกียรติพระองค์ และปกครองร่วมกับพระองค์ตลอดไป พระคัมภีร์กล่าวว่า "แผนการที่ไม่เปลี่ยนแปลงตลอดมาของพระองค์คือ การรับเราเข้าสู่ครอบครัวของพระองค์เอง โดยการนำเรามาหาพระองค์เองผ่านทางพระเยซูคริสต์ และสิ่งนี้ทำให้พระองค์ชอบพระทัยอย่างยิ่ง" (เอเฟซัส 1:5 NLT)

เพราะว่าพระเจ้าทรงเป็นความรัก ดังนั้นพระองค์จึงเห็นว่าความสัมพันธ์มีค่า พระลักษณะแท้จริงของพระองค์ก็เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ และพระองค์ทรงสำแดงพระองค์เองด้วยคำที่เกี่ยวกับครอบครัว คือ พระบิดา พระบุตร และพระวิญญาณ ตรีเอกานุภาพคือความสัมพันธ์ของพระเจ้ากับพระองค์เอง มันเป็นแบบแผนที่สมบูรณ์แบบสำหรับความสัมพันธ์รักใคร่ปรองดอง และเราควรศึกษาว่าความสัมพันธ์นี้มีผลสืบเนื่องอย่างไร

พระเจ้าทรงดำรงอยู่ในความสัมพันธ์รักต่อพระองค์เองเสมอมา ดังนั้น พระองค์ไม่เคยว้าเหว่ พระองค์มิได้จำเป็นต้องมีครอบครัว ทว่าพระองค์ทรงปรารถนาครอบครัวพระองค์จึงดำริแผนการเพื่อสร้างเรา นำเราเข้ามาในครอบครัวของพระองค์ และแบ่งบันทุกสิ่งที่พระองค์ทรงมีแก่เรา สิ่งนี้ทำให้พระเจ้าพอพระทัยอย่างยิ่ง พระคัมภีร์กล่าวว่า "มันเป็นวันที่พระองค์มีความสุข เมื่อพระองค์ประทานชีวิตใหม่ให้แก่เราโดยทางความจริงแห่งพระวาทะของพระองค์ และเรากลายเป็นบุตรลำดับแรก ๆ ในครอบครัวใหม่ของพระองค์ (ยากอบ 1:18 LB)

เมื่อเรามอบความไว้วางใจในพระคริสต์ พระเจ้าก็กลายเป็นพระบิดาของเรา เรากลายเป็นบุตรของพระองค์ ผู้เชื่อคนอื่น ๆ กลายเป็นพี่น้องของเรา และคริสตจักรกลายเป็นครอบครัวฝ่ายวิญญาณของเรา ครอบครัวของพระเจ้าครอบคลุมถึงผู้เชื่อทุกคนในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต

มนุษย์ทุกคนถูกสร้างขึ้นโดยพระเจ้า แต่ไม่ใช่ทุกคนเป็นบุตรของพระเจ้า ทางเดียวที่จะเข้ามาอยู่ในครอบครัวของพระเจ้าคือโดยการบังเกิดใหม่สู่ครอบครัวนี้ คุณกลายเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวมนุษยชาติโดยการเกิดครั้งแรกของคุณ แต่คุณกลายเป็นสมาชิกในครอบครัวของพระเจ้าโดยการเกิดครั้งที่สอง "พระเจ้าประทานสิทธิพิเศษแห่งการบังเกิดใหม่แก่เรา เพื่อบัดนี้เราจะเป็นสมาชิกในครอบครัวของพระเจ้า" (1 เปโตร 1:3ข LB; และดูโรม 8:15-16)

การเชื้อเชิญให้เป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวของพระเจ้านั้นเป็นเรื่องสากล (มาระโก 8:34; กิจการ 2:21; โรม 10:13; 2 เปโตร 3:9) แต่มีเงื่อนไขประการหนึ่งคือ ความเชื่อในพระเยซู พระคัมภีร์กล่าวว่า "พวกท่านทุกคนเป็นบุตรของพระเจ้าโดยความเชื่อในพระเยซูคริสต์" (กาลาเทีย 3:26 2002)

ครอบครัวฝ่ายวิญญาณของคุณสำคัญยิ่งกว่าครอบครัวฝ่ายร่างกายเสียอีก เพราะว่ามันจะดำรงอยู่ตลอดไป ครอบครัวของเราบนโลกนี้เป็นของประทานแสนวิเศษจากพระเจ้าแต่ว่าครอบครัวบนโลกนี้ก็ดำรงอยู่เพียงชั่วคราวและเปราะบาง มักจะแตกแยกเพราะการหย่าร้าง ระยะทาง ความแก่ชรา และหลีกเลี่ยงไม่ได้คือความตาย ตรงกันข้าม ครอบครัวฝ่ายวิญญาณของเรา คือความสัมพันธ์ของเรากับผู้เชื่อคนอื่น จะดำเนินต่อไปชั่วนิรันดร์มันเป็นความผูกพันที่แข็งแกร่งยิ่งกว่า และเป็นพันธะที่คงทนถาวรกว่าความสัมพันธ์ทางสายเลือด ทุกครั้งที่เปาโลหยุดเพื่อพิจารณาพระประสงค์นิรันดร์ที่พระเจ้าทรงมีไว้สำหรับพวกเราร่วมกัน ท่านก็จะร้องออกมาเป็นคำสรรเสริญว่า "เมื่อข้าพเจ้าคิดถึงพระปัญญาและขอบเขตของแผนการของพระองค์ ข้าพเจ้าก็คุกเข่าลงและอธิษฐานต่อพระบิดาของทุกคนในครอบครัวอันไพศาลของพระเจ้า บางคนในครอบครัวนี้อยู่ในสวรรค์แล้วและบางคนอยู่บนโลกนี้" (เอเฟซัส 3:14-15 LB)

ผลประโชน์ของการอยู่ในครอบครัวของพระเจ้า

ทันทีที่คุณบังเกิดฝ่ายวิญญาณเข้าสู่ครอบครัวของพระเจ้า คุณก็ได้รับของขวัญวันเกิดที่น่าตื่นเต้น อันได้แก่ นามสกุล ความคล้ายคลึงภายในครอบครัว สิทธิพิเศษของครอบครัว ความสนิทสนมในครอบครัว และมรดกของครอบครัว (1 ยอห์น 3:1; โรม 8:29; กาลาเทีย 4:6-7; โรม 5:2; 1 โครินธ์ 3:23; เอเฟซัส 3:12; 1 เปโตร 1:3-5; โรม 8:17) พระคัมภีร์กล่าวว่า "เนื่องจากท่านเป็นบุตรของพระองค์ ทุกสิ่งที่พระองค์ทรงมีก็เป็นของท่าน" (กาลาเทีย 4:7ข NLT)

พระคัมภีร์ใหม่เน้นย้ำเรื่อง "มรดก" อันมั่นคั่งของเรา พระคัมภีร์บอกเราว่า "พระเจ้าของข้าพเจ้าจะประทานสิ่งสารพัดที่พวกท่านขาดอยู่นั้นจากทรัพย์อันรุ่งเรืองของพระองค์ในพระเยซูคริสต์" (ฟีลิปปี 4:19) ในฐานะบุตรของพระเจ้า เราได้รับส่วนแบ่งในทรัพย์สมบัติของครอบครัวบนโลกนี้ เราได้รับ "ความมั่งคั่ง… พระคุณ… พระกรุณา… ความอดทน… พระสิริ… พระปัญญา… ฤทธิ์เดช… และพระเมตตา" (เอเฟซัส 1:7; โรม 2:4; 9:23; 11:33; เอเฟซัส 3:16; 2:4) แต่ในนิรันดรกาล เราจะได้รับมรดกมากยิ่งกว่านี้

เปาโลกล่าวไว้ว่า "ข้าพเจ้าอยากให้ท่านตระหนักว่าพระเจ้าประทานมรดกอันมั่นคั่งและมีสง่าราศีเพียงไรแก่ประชากรของพระองค์" (เอเฟซัส 1:18ข NLT) มรดกนี้มีอะไรบ้าง ประการแรก เราจะได้อยู่กับพระเจ้าตลอดไป (1 เธสะโลนิกา 5:10; 4:17) ประการที่สอง เราจะเปลี่ยนแปลงเป็นเหมือนพระคริสต์ (1 ยอห์น 3:2; 2 โครินธ์ 3:18) ประการที่สาม เราจะเป็นอิสระจากความเจ็บปวด ความตาย และความทุกข์ยากทั้งสิ้น (วิวรณ์ 21:4) ประการที่สี่ เราจะได้บำเหน็จ และรับมอบหมายตำแหน่งในการรับใช้ใหม่ (มาระโก 9:41; 10:30; 1 โครินธ์ 3:8; ฮีบรู 10:35; มัทธิว 25:21, 23) ประการที่ห้า เราจะได้เข้าร่วมในพระสิริของพระคริสต์ (โรม 8:17; โคโลสี 3:4; 2 เธสะโลนิกา 2:14; 2 ทิโมธี 2:12; 1 เปโตร 5:1) ช่างเป็นมรดกยิ่งใหญ่อะไรเช่นนี้ คุณมั่งคั่งมากกว่าที่คุณรู้ตัวหลายเท่า

พระคัมภีร์กล่าวว่า "พระเจ้าได้ทรงเก็บมรดกอันล้ำค่าไว้ในสวรรค์สำหรับลูกของพระองค์ มันถูกเก็บไว้สำหรับท่านเป็นมรดกที่ไม่มีวันผุพัง เน่าเปื่อย หรือสลายไป" (1 เปโตร 1:4 NLT) นี่หมายความว่า มรดกนิรันดร์ของคุณนั้นประเมิณค่าไม่ได้ บริสุทธิ์ ถาวร และได้รับการปกป้องไว้ ไม่มีใครเอาไปจากคุณได้ มันจะไม่ถูกทำลายโดยสงครามเศรษฐกิจตกต่ำ หรือภัยธรรมชาติ มรดกนิรันดร์นี้คือสิ่งที่คุณควรจะรอคอยและทุ่มเทให้ ไม่ใช่การปลดเกษียน เปาโลกล่าวว่า "ไม่ว่าท่านจะทำสิ่งใด ก็จงทำด้วยความเต็มใจเหมือนกระทำถวายองค์พระผู้เป็นเจ้า ไม่ใช่เหมือนกระทำแก่มนุษย์ ท่านรู้ว่าท่านจะได้รับมรดกจากองค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นบำเน็จ" (โคโลสี 3:23-24ก) การปลดเกษียนเป็นเป้าหมายที่สั้น คุณควรจะอยู่โดยคำนึงถึงนิรันดรกาล

บัพติศมา: การแสดงตัวเป็นครอบครัวของพระเจ้า

ครอบครัวที่ดีย่อมมีความภูมิใจในครอบครัว สมาชิกจะไม่อายที่ถูกนับเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวนั้น แต่น่าเศร้าที่ผมได้พบผู้เชื่อหลายคนซึ่งไม่เคยแสดงตัวอย่างเปิดเผยว่าเขาอยู่ในครอบครัวฝ่ายวิญญาณนี้ ตามที่พระเยซูทรงบัญชา นั่นคือโดยการรับบัพติศมา

บัพติศมาไม่ใช่พิธีกรรมที่เลือกได้ หรือชะลอไว้ หรือเลื่อนออกไปได้ แต่มันเป็นสัญลักษณ์ที่บอกว่าคุณได้เข้าสู่ครอบครัวของพระเจ้า มันเป็นการประกาศต่อสาธารณะ ประกาศให้โลกรู้ว่า "ฉันไม่อายที่เป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวของพระเจ้า" คุณได้รับบัพติศมาแล้วหรือยัง พระเยซูบัญชาให้ทุกคนในครอบครัวของพระองค์ทำสิ่งที่สวยงามนี้ พระองค์บัญชาเราว่า "จงออกไปสั่งสอนชนทุกชาติให้เป็นสาวกของเรา ให้รับบัพติศมาในพระนามแห่งพระบิดา พระบุตร และพระวิญญาณบริสุทธิ์" (มัทธิว 28:19)

เป็นเวลาหลายปี ที่ผมสงสัยว่าทำไมพระมหาบัญชาของพระเยซูจึงให้ความสำคัญแก่พิธีบัพติศมาเท่าเทียมกับงานสำคัญคือการประกาศและสั่งสอน ทำไมบัพติศมาจึงสำคัญนักแล้วผมก็ตระหนักว่า เพราะมันแสดงถึงพระประสงค์ประการที่สองของพระเจ้าสำหรับชีวิตคุณคือ การเข้าร่วมในสามัคคีธรรมแห่งครอบครัวนิรันดร์ของพระเจ้า

บัพติศมามีความหมายที่ลึกซึ้ง บัพติศมาประกาศความเชื่อของคุณ ประกาศว่าคุณเข้าร่วมในการถูกฝังและการฟื้นคืนพระชนม์ของพระคริสต์ เป็นสัญลักษณ์ของการตายจากชีวิตเก่าของคุณ และประกาศชีวิตใหม่ของคุณในพระคริสต์ และยังเป็นการฉลองที่คุณได้เข้ามาอยู่ในครอบครัวของพระเจ้า

บัพติศมาของคุณเป็นภาพฝ่ายร่างกายของความจริงฝ่ายวิญญาณ มันเล็งถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อพระเจ้าทรงนำคุณมาในครอบครัวของพระองค์ "เพราะว่าถึงเราจะเป็นพวกยิว หรือพวกกรีก เป็นทาส หรือมิใช่ทาสก็ตาม เราทั้งหลายได้รับบัพติศมาโดยพระวิญญาณองค์เดียวเข้าเป็นกายเดียวกัน" (1 โครินธ์ 12:13)

บัพติศมาไม่ได้ทำให้คุณเป็นสมาชิกในครอบครัวของพระเจ้า ความเชื่อในพระคริสต์เท่านั้นที่นำคุณเข้าสู่ครอบครัวนี้ แต่บัพติศมาแสดงว่าคุณเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวของพระเจ้า เช่นเดียวกับแหวนแต่งงาน ซึ่งเป็นเครื่องเตือนใจที่มองเห็นได้ เพื่อให้ระลึกถึงคำสัญญาที่จาลึกในใจของคุณ มันเป็นการกระทำที่บอกถึงการเริ่มต้น ไม่ใช่สิ่งที่คุณคอยจนกว่าคุณเป็นผู้ใหญ่ฝ่ายวิญญาณ เงื่อนไขเดียวในพระคัมภีร์คือ คุณเชื่อ (กิจการ 2:41; 8:12-13, 35-38)

ในพระคัมภีร์ใหม่ ผู้เชื่อได้รับบัพติศมาทันทีที่เขาเชื่อในวันเพ็นเทคอสต์ 3,000 คน ได้รับบัพติศมาในวันเดียวกันกับที่พวกเขาได้ยอมรับพระคริสต์ อีกครั้งหนึ่ง ผู้นำเอธิโอเปียได้รับบัพติศมา ณ จุดเดียวกับที่เขากลับใจ เปาโลกับสิลาสก็ให้บัพติศมาแก่นายคุกเมืองฟีลิปปีและครอบครัวของเขาในเวลาเที่ยงคืน ในพระคัมภีร์ใหม่ การให้บัพติศมาไม่มีการคอยท่า ถ้าคุณยังไม่ได้รับบัพติศมาเพื่อแสดงออกว่าคุณเชื่อในพระคริสต์ ก็จงทำทันทีที่ทำได้ ตามที่พระเยซูทรงบัญชา

สิทธิพิเศษยิ่งใหญ่ที่สุดของชีวิต

พระคัมภีร์กล่าวว่า "ทั้งพระเยซูผู้ที่ทำให้คนอื่นบริสุทธิ์และคนที่พระองค์ทำให้บริสุทธิ์ต่างมาจากครอบครัวเดียวกัน พระเยซูจึงไม่อายที่จะเรียกพวกเขาว่าเป็นพี่น้องพระองค์" (ฮีบรู 2:11 อ่านเข้าใจง่าย) จงซึมซับความจริงที่น่าอัศจรรย์นี้ คุณเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวของพระเจ้า และเพราะว่าพระเยซูทรงทำให้คุณบริสุทธิ์ พระเจ้าจึงทรงภูมิใจในตัวคุณ คำตรัสของพระเยซูนั้นชัดเจน คือ "พระองค์ทรงชี้ไปทางพวกสาวกของพระองค์และตรัสว่า นี่เป็นมารดาและพี่น้องของเรา ด้วยว่าผู้ใดจะกระทำตามพระทัยพระบิดาของเราผู้ทรงสถิตในสวรรค์ ผู้นั้นเป็นพี่น้องชายหญิงและมารดาของเรา" (มัทธิว 12:49-50) การได้เข้าร่วมในครอบครัวของพระเจ้าคือ เกียรติสูงสุดและสิทธิพิเศษยิ่งใหญ่ที่สุดที่คุณจะมีโอกาสได้รับ ไม่มีอะไรจะมาเทียบได้ เมื่อไรก็ตามที่คุณรู้สึกว่าตัวเองไม่สำคัญ ไม่เป็นที่รัก หรือไม่ปลอดภัย ให้คุณระลึกว่าคุณเป็นของใคร

วันที่ 15 คิดถึงวัตถุประสงค์ของฉัน

ประเด็นสำหรับการใคร่ครวญ: ฉันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อครอบครัวของพระเจ้า

ข้อพระคัมภีร์สำหรับท่องจำ: "แผนการที่ไม่เปลี่ยนแปลงตลอดมาของพระองค์คือ การรับเราเข้าสู่ครอบครัวของพระองค์เอง โดยการนำเรามาหาพระองค์เอง ผ่านทางพระเยซูคริสต์ และสิ่งนี้ทำให้พระองค์ชอบพระทัยอย่างยิ่ง" เอเฟซัส 1:5 (NLT)

คำถามสำหรับการพิจารณา: ฉันจะเริ่มปฏิบัติต่อผู้เชื่อคนอื่นเหมือนเป็นสมาชิกในครอบครัวของฉันเองได้อย่างไร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น